ร้านขายของชำ

ปัจจุบันร้านขายของชำเหลือน้อยลงไปทุกทีแล้ว  ด้วยเพราะเศรษฐกิจแบบนี้ตกต่ำลงทุกปี  และมาเจอกับไวรัสโควิด-19 เล่นงานเข้าอีก ลำพังเศรษฐกิจย่ำแย่ คนไม่มีเงินจะซื้อของกันอยู่แล้ว  และคนส่วนมากชอบเข้า 7-11 เข้าห้างฯใหญ่ ๆ ซะเป็นส่วนใหญ่  เพราะว่า 7-11  มีสินค้าให้เลือกซื้อได้เยอะกว่า มีโปรโมชั่นลดแลกแจกแถม  มีแอร์เย็น  ๆ มีเครื่องดื่มพวกชากาแฟขายอีกด้วย  แถมยังสั่งให้มาส่งให้ที่บ้านได้อีกด้วย  และห้างใหญ่  ๆ  คนนิยมไปเดินดูสินค้า ดูมือถือ ดูอุปกรณ์ไอที  และยังเข้าไปกินอาหารในห้างได้อีกด้วย  มีแอร์เย็น  ๆให้ตาก  ยอมแลกกับสินค้าแพง  ซึ่งร้านขายของชำแทบจะตายหายไปจากบ้านเราลงไปทุกทีแล้ว  เพราะคนไม่เข้านั่นเอง  แต่ปัจจุบันรัฐบาลได้มีมาตรการให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งโดยให้ใช้เงินคนละ 150 บาท และรัฐออกให้อีก 150 บาท ให้จับจ่ายใช้สอยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ  และร้านค้าก็สามารถเข้าร่วมได้เช่นกัน  เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากให้กลับมาคึกคักอีกครั้งหนึ่งนั่นเอง  ทำให้เงินตรากลับมาสะพัดแก่ประชาชน

การที่เราจะเปิดขายร้านขายของชำ  เราต้องมีอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น  และต้องอยู่ติดกับถนน ไม่จำเป็นต้องเป็นถนนใหญ่  เป็นถนนในซอย ที่มีรถวิ่งผ่านไปผ่านมาทุกวันก็ได้ครับ สำหรับเงินลงทุนซื้อข้าวของ เอาแบบซื้อสินค้าเข้ามาขายเลยดีกว่า ประมาณ 5หมื่นถึง 1แสนบาท  ซื้อชั้นซื้อตู้แช่อีกประมาณ 5หมื่นบาท เบ็ดเสร็จแล้วลงทุนเป็นแสนครับ  ไหนจะต้องเสียภาษีพาณิชย์ ภาษีโรงเรือนอีกด้วย

เปิดร้านของชำ  ต้องเปิดตั้งแต่เช้าเลยครับ ตั้งแต่ 6 โมงเช้าไปจนถึง 6  โมงเย็น  ต้องนั่งเฝ้าหน้าร้าน  เพราะถ้าลูกค้ามาแล้วไม่เห็นคนขาย  ลูกค้าอาจจะเดินกลับได้  ต้องมีตู้ใส่บุหรี่  ลังน้ำแข็งสำหรับใส่น้ำแข็งปั่น  เวลามีลูกค้ามาซื้อน้ำแข็งทีละ 5 บาท 10 บาท ต้องมีกิโลไว้สำหรับชั่งน้ำแข็ง  เพื่อไม่ให้ขาดไม่ให้เกินได้

ต้องเตรียมเงินทอนให้พร้อม  แบ้งค์ 100  แบ้งค์ 50 แบ้งค์ 20 และเหรียญ  เพราะถ้าไม่มีทอนให้ลูกค้า  แล้วเราจะวิ่งไปหาแลกที่ไหน  ก็ต้องลดให้ลูกค้าไป  กำไรหายเลยทีนี้ แล้วสินค้าที่เราจะเอามาลงขาย  เราต้องไปซื้อที่แม็คโคร  ซื้อมาทีเป็นแพ็ค ๆ แต่ขายเป็นชิ้น ๆ เป็นห่อ ๆ เราจะได้กำไรจากตรงนี้  เพราะเราซื้อมายกแพ็คมันจะถูกกว่า ถ้าเราไปซื้อจากโลตัส  หรือบิ๊กซี  เราก็ต้องบวกเพิ่มไปอีก  ทำให้ราคาสินค้าของเราแพงกว่าร้านอื่น  และเราจะขายสินค้าไม่ได้

อาชีพเสริมอื่นๆ