เปิดธุรกิจ ร้านกาแฟ อย่างไร ให้มั่นคง

 

เปิดธุรกิจ ร้านกาแฟ อย่างไร ให้มั่นคง  คำค้นหาที่เกี่ยวกับการเปิดธุรกิจที่มากที่สุดใน Google รู้กันไหมว่าคือธุรกิจอะไร ซึ่งนั่นก็คือธุรกิจเปิดร้านกาแฟ นั่นเอง เพราะเป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในบรรดาคนทำธุรกิจ คนทำงานรวมถึงหนุ่มสาวที่ต้องการมีอาชีพส่วนตัว ทั้งนี้เมื่อสนใจธุรกิจเปิดร้านกาแฟแล้วคุณรู้หรือไม่ว่า จะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ต้องใช้เงินทุนเท่าไหร่ มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง เท่าไหร่ และจะหาทำเลอย่างไรให้โดน ฉะนั้นวันนี้เราไปศึกษาหัวข้อที่กล่าวมานี้ไปพร้อมกัน
สำหรับปัญหาในการเปิดธุรกิจร้านกาแฟไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไรเลย ถึงแม้จะมีคู่แข่งเยอะมากมาย เพราะถ้าหากเราสามารถสร้างความโดดเด่น และ ความแตกต่างให้ร้านเราได้ ก็ย่อมมีโอกาสที่จะเติบโตได้ไม่ยาก  สิ่งสำคัญคือการสร้างความโดดเด่น และ ความแตกต่าง รวมถึงการสร้างแบรนด์ให้มีจุดเด่นเป็นของตัวเองและที่สำคัญ เรื่องของการขายและการบริการ ถือว่าเป็นหัวใจหลักในการบริหารงานธุรกิจร้านกาแฟนี้ให้เจริญเติบโตก้าวหน้าได้อย่างมั่นคง วันนี้เรามีเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้คุณสามารถนำไปใช้ในการสร้างแบรนด์ของร้านกาแฟคุณมาดูกัน

1.ทำเลต้องได้ต้องโดนและต้องดี

ทำเลเป็นสิ่งที่สำคัญอันดับต้น ๆ เพราะหาทำเลที่ตั้งของร้านไม่ดี ไม่ค่อยมีคนเดินผ่าน การขายก็เป็นไปได้ยาก ฉะนั้นแล้วก่อนเปิดร้านกาแฟควรหาทำเลที่ตั้งร้านให้ดี ราคาค่าเช่าอาจจะแพงหน่อยแต่มันก็คุ้มค่ากับการตั้งร้านค้าที่มีผู้คนจำนวนมาก มีผู้คนเดินผ่าน หรือเป็นแหล่งชุมชน เพื่อสร้างโอกาสในการขายและการทำประชาสัมพันธ์ร้านให้เป็นที่จดจำได้ง่ายมากกว่า

2.การตกแต่งร้านแบบมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

การตกแต่งร้านให้สวยไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนมากนักเพียงแต่ ขอให้คุณมีไอเดียที่แปลกใหม่มีเอกลักษณ์สำหรับร้านของเราอย่างชัดเจนว่า ต้องการรูปแบบในสไตล์ไหน ต้องคำนึงถึงทำเลและกลุ่มลูกค้าของร้านด้วยเช่นหากคุณเปิดร้านแถวมหาวิทยาลัย คุณก็ควรจะตกแต่งร้านในสไตล์น่ารักสดใสดูสบายตา  หรือเปิดในแถวออฟฟิศแหล่งควรทำงานและของคุณก็อาจจะตกแต่งเป็นสไตล์ลอฟท์ หรือ คลาสสิค มีความน่าเชื่อถือไม่จำเป็นต้องตกแต่งแพง แต่เน้นความสดใหม่และความจริงใจให้กับลูกค้า รวมถึงราคาของกาแฟ ก็ไม่ควรตั้งสูงมากนักเพื่อที่ลูกค้าทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงร้านของคุณได้ง่าย

3.วัตถุดิบเป็นสิ่งสำคัญ

คุณภาพของวัตถุดิบที่เป็นเรื่องสำคัญมาก เรียกได้ว่าคุณภาพของวัตถุดิบคือหัวใจของร้าน ส่วนที่จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจว่าจะมาเป็นลูกค้าประจำของร้านเราหรือไม่ เพราะฉะนั้นเริ่มตั้งแต่การคัดเลือกเมล็ดกาแฟ เจ้าของร้านจะต้องใส่ใจในรายละเอียดของเมล็ดกาแฟ คัดสรรมาอย่างดี เกรดระดับพรีเมี่ยม รสชาติ กลิ่น และ สี รวมถึงขั้นตอนการทำและส่วนผสมจะต้องคัดเลือกที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน หากมีสูตรเป็นของตัวเองได้ยิ่งดี เพื่อให้รสชาติออกอร่อยกว่าร้านอื่น ๆ เป็นจุดเด่นของร้านได้เลย

4.สร้างจุดขายด้วยไอเดียใหม่ๆ

การสร้างจุดขาย คือการสร้างความโดดเด่น ความเป็นตัวตน ความเป็นแบรนด์ของตัวเองให้กับร้านของคุณ  ไม่ว่าจะเป็นการคิดสูตรใหม่ การพัฒนาเมนูใหม่ๆ ส่วนผสมใหม่ๆ ที่นำมาใช้คุณภาพเป็นเกรด A ระดับพรีเมี่ยม รวมถึงการสร้างสรรค์หน้าตาของกาแฟแต่ละรสชาติ ให้มีความสะดุดตา รวมถึงการสร้างเรื่องราวให้กับกาแฟหรือเครื่องดื่มอื่นๆน่าสนใจเพิ่มขึ้น เช่นการเล่าประวัติ และ ที่มาของวัตถุดิบต่าง ๆ กรรมวิธีการชมและประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับจากการดื่มกาแฟของร้านของคุณ

5.การตลาดสำคัญไม่แพ้กัน

การทำตลาดถือว่าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการทำธุรกิจทุกชนิด แล้วการตลาดมีส่วนสำคัญอย่างมากที่ทำให้ลูกค้ารู้จักร้านและจดจำแบรนด์ของเรา สามารถนำการตลาดเข้ามาช่วยได้เป็นอย่างดี โดยก่อนเปิดร้านเราสามารถใช้กลยุทธ์ทางการตลาด เช่น การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย การทำโปรโมชั่นลด 20% ในวันเกิด การสะสมแต้มซื้อ  10 แก้วแถม 1 แก้ว หรือโปรโมชั่นพิเศษในวันเปิดร้านซื้อ 1 แก้วแถม 1 แก้ว จากนั้นก็ทำโปรโมชั่นตามวันหยุดหรือเทศกาลต่างๆอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีกิจกรรมภายในร้านของคุณอย่างสม่ำเสมอรวมถึงการเสนอรางวัลในการร่วมกิจกรรมให้กับลูกค้าด้วย

6.เมนูใหม่ๆนอกจากกาแฟ

นอกเหนือจากกาแฟแล้วภายในร้านควรมีเครื่องดื่มอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นสมูทตี้ปั่น มิลค์เชค น้ำผลไม้ คั้นสด รวมถึงเมนูเสริม อาหารทานเล่น เช่น แซนวิช  ขนมปังหน้าต่าง ๆ  คุกกี้ เค้ก เฟรนช์ฟรายส์ ของทานเล่นต่างๆ ไปหาคุณมีความสามารถในการทำขนมหรือของหวานด้วยแล้ว ก็จะต่อยอดได้ง่ายด้วยมากยิ่งขึ้น ด้วยการเพิ่มเมนูให้ลูกค้าได้เลือกรับประทานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเสริมด้วยของหวาน วาฟเฟิล ฮันนี่โทส แพนเค้ก หรือทำเค้กในแบบฉบับของร้านเราเองให้มีหน้าตาที่โดดเด่นกว่าร้านอื่นให้เป็น signature ของร้านได้เลยทีเดียว

7.บริการดีมีแต่ความประทับใจให้กับลูกค้า

การบริการเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเรียกลูกค้า การยิ้มแย้ม การสบตาลูกค้า การทักทายการเอาใจใส่ สังเกตดูแลลูกค้าอย่างดี เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าคุณเป็นมิตร และเข้าถึงง่าย  เพื่อลูกค้าจะรู้สึกว่าเขาเป็นคนพิเศษ บางคนอาจสามารถสื่อสารหรือสนทนากับลูกค้าได้ แต่ควรสังเกตลูกค้าด้วยว่า ลูกค้าพร้อมจะสนทนากับเราไหม ไม่ใช่เป็นการสร้างความอึดอัดให้กับลูกค้า การสนทนาต้องดูขอบเขตของคำถามให้ดีด้วย เพื่อไม่ให้เป็นการก้าวก่ายลูกค้ามากเกินไป และที่สำคัญการบริการต้องมีความสุภาพอ่อนน้อมถ่อมตนอย่างสม่ำเสมอ
สุดท้ายนี้เจ้าของร้านต้องอย่าลืมพัฒนาตัวเอง พัฒนางานบริหาร พัฒนาเมนูใหม่ ๆ พัฒนาคนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อที่จะได้เกิดความแปลกใหม่ภายในร้านอย่างต่อเนื่อง ไม่จำเจ ไม่น่าเบื่อ และที่สำคัญต้องไม่ลืมการดูแลพนักงานในร้านที่เจ้าของร้านจะต้องให้ความเมตตา และการอบรมสั่งสอนพนักงาน เพื่อให้เขาสามารถบริการลูกค้าได้ดี และพวกเขาจะได้อยู่กับเราไปนาน ๆ เกิดความจงรักภักดีกับเจ้าของร้านและร้านได้อย่างมั่นคงต่อไป