เปิดร้าน ขาย ขนมไทย อาชีพเสริม ที่น่าสนใจ

 

เปิดร้าน ขาย ขนมไทย อาชีพเสริม ที่น่าสนใจ    ขนมไทยเป็นขนมหวานมีมาตั้งแต่สมัยเวลา ซึ่งถือเป็น การประกอบพิธีการต่างๆ ถือเป็นเอกลักษณ์และวัฒนธรรมของชาติซึ่งอยู่คู่กับสังคมไทยมาช้านาน ในสมัยก่อน ขนมไทยจะทำเฉพาะเวลามีงานสำคัญเท่านั้นไม่ว่าจะเป็นงานเทศกาลงานประเพณีงานทางศาสนา หรือการประกอบพิธีการต่างๆ  ขนมไทย

 

ขนมไทยแท้ดั้งเดิมมีลักษณะ ที่แท้จริงเคยเป็นขนมไทยแท้ จะมีส่วนประกอบเพียงสามอย่าง คือแป้ง น้ำตาล  มะพร้าว โดยการทำขนมไทยเป็นการบ่งบอกถึงลักษณะนิสัยของคนไทย ในเรื่องความอดทน ใจเย็น ละเอียดละออ และชอบสังเกต ทั้งยังได้แสดงความหวังอันลึกซึ้งไว้ในชื่อของขนมไทยแต่ละชนิดด้วย
ขนมชั้น หมายถึง ความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน การเลื่อนชั้น เลื่อนตำแหน่ง
ขนมถ้วยฟู หมายถึง ความเจริญเฟื่องฟูรุ่งเรือง
ขนมทองเอก หมายถึง ความเป็นหนึ่ง
ขนมเสน่ห์จันทร์ หมายถึง ความมีเสน่ห์ดุจจันทร์วันเพ็ญ
ขนมทองหยิบทองหยอด หมายถึง ความร่ำรวยทรัพย์สินเงินทอง
และด้วยที่ว่าคนไทยชอบทานขนมไทย กันเป็นประจำอยู่แล้วทำให้พ่อค้าแม่ค้า สนใจที่อยากจะเปิด ร้านเล็ก ทำเกี่ยวกับขนมไทยขาย ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะขนมไทย คนไทยส่วนใหญ่ชอบทานกัน และ ทำให้ขายได้ อย่างต่อเนื่อง วันนี้เรามีปัจจัยเล็ก ๆ สำหรับการเปิดร้านจะต้องวางแผนอย่างไรบ้าง มาฝากกัน
1.ขนมที่ทำสุขด้วยกันนึ่ง
เราจะใช้ลังถึงในการทำ บางชนิด คือ ส่วนผสมใส่ถ้วยอะไร แล้วนึ่งบางชนิดใส่ถาดหรือพิมพ์ บางชนิดห่อด้วยใบตองหรือใบมะพร้าว เช่น ช่อม่วง ขนมชั้น ข้าวต้มผัด สาลี่อ่อน สังขยา
2.ขนมที่ทำจะต้องสุกด้วยการกวน.
ส่วนมากใช้กระทะทองในการทำ กวนตั้งแต่เป็นน้ำเหลวใสจนงวด แล้วเทใส่พิมพ์ หรือถาดเมื่อเย็นจึงตัดเป็นชิ้น เช่น ขนมลืมกลืน ขนมเปียกปูน หรือผลไม้กวนต่างๆ
3.ขนมที่ทำให้สุกด้วยการเชื่อม
เป็นการใส่ส่วนผสมลงในน้ำเชื่อมที่กำลังเดือดจนสุก ซึ่งได้แก่ทองหยอด ทองยิบ กล้วยเชื่อม
4.ขนมที่ทำให้สุกด้วยการทอด
เป็นการใส่ส่วนผสมลงในกระทะที่มีน้ำมันร้อนๆจนสุก เช่นกล้วยทอด ข่าวเม่าทอด ขนมค้างคาว ขนมฝักบัว
5.ขนมที่ทำให้สุกด้วยการนึ่งหรืออบ
ได้แก่ ขนมหม้อแกง ขนมหน้านวน ขนมกลีบลำดวน ขนมท้องม้วน ขนมจ่ามงกุฏ นอกจากนี้อาจจะรวมถึงขนมครก ขนมเบื้อง
6.ขนมที่ทำให้สุกด้วยการต้ม
จะใช้หม้อหรือกระทะต้มในน้ำเดือดใส่ขนมลงไปจนสุกแล้วตักขึ้นและนำมาครบหรือโรยมะพร้าว ซึ่งได้แก่ขนมถั่วแปด ขนมต้ม ขนมเหนียว ขนมเรไร รวมถึงขนมประเภทน้ำที่นิยมนำมาต้มกับกะทิใส่แป้งผสมเป็นขนมเปียก และขนมที่กินกับน้ำเชื่อมและน้ำกะทิ เช่นกล้วยบวชชี สาคูเปียก

อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำขนมไทยได้แก่

1.ช้อนตวงนี่ปากช้อนตักส่วนผสมเครื่องชั่ง
2.ถ้วยตวงมีสองชนิด ถ้วยตวงของเหลวและถ้วยตวงของแห้ง
3.กระชอน ที่ร่อนแป้ง ผ้าขาวบาง กระต่ายขูดมะพร้าว ถ้วยตะไล
4.ถาดสำหรับใส่ขนมไทย ตระแกรงไม้ พิมพ์ขนมไทยชนิดต่างๆ
5.หม้อ ลังถึง กระทะ ตะหลิว พายไม้หรือช้อนไม้ ทัพพี

ต้นทุนในการเปิดร้านขนมไทย

เงินลงทุนในการเปิดร้านขนมไทยใช้ต้นทุนเพียงแค่หลักพัน หรืออาจจะถึงหมื่นขึ้น อยู่กับปริมาณและประเภทของขนมที่เราจะทำ เพียงแต่เริ่มต้นเปิดร้านอาจใช้ทุนในการซื้ออุปกรณ์ที่มากน้อย แต่เป็นการลงทุนครั้งเดียว

ช่องทางการขาย

-อาจจะเปิดร้านเล็กๆ ตามตลาดนัดตลาดที่มีชุมชนคนเดินพลุกพล่านหน้าหมู่บ้านหน้าโรงเรียน
– เปิดร้านแบบรถเข็นเล็กๆ ขายตามศูนย์อาหารตลาดหรือแหล่งที่ให้ตั้งขาย
– เปิดร้ายขายของแบบออนไลน์ซึ่ง กำลังเป็นที่นิยมในเรื่องขายของออนไลน ซึ่งสามารถขายได้ทั้งขายปลีกและขายส่ง
– การฝาก ขนมไทยให้กับร้านค้า เรียกว่าการฝากขาย เช่นฝากขายไว้กับร้านอาหารไทย ร้านขนมไทย ร้านเครื่องดื่ม ร้านเบเกอรี่ เป็นต้น
ทั้งหมดนี้ คุณก็สามารถตั้งร้านเล็ก ๆ ขายขนมไทยได้แล้ว ขอเพียงตั้งใจขาย หาวัตถุดิบที่สด สะอาดใหม่มาทำขนมให้กับลูกค้าเสมอ วัตถุดิบเกรดดีมีคุณภาพ ไม่ค้างคืน ขนมไทยทำใหม่อยู่ทุกวัน ใส่ใจในงานบริการลูกค้าทั้งก่อนขายและหลังการขาย เพื่อสร้างความประทับใจให้ลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ ผลที่ตามมาลูกค้าก็จะช่วยรีวิว หรือบอกต่อ ปากต่อปาก กันไปว่าร้านของคุณอร่อยมีคุณภาพ ของสดใหม่ทุกวัน
ท้ายนี้ขอฝากไว้ว่าไม่มีอาชีพใดในโลกที่ทำไม่ได้ ขึ้นอยู่กับความตั้งใจของคุณ ความใส่ใจในงาน ความขยันอดทน รับผิดชอบ คำนึงถึงผู้บริโภคเป็นสำคัญเสมอ ซื่อสัตย์กับลูกค้าทุกคน ดูแลลูกค้าทุกคนอย่างมืออาชีพ ไม่ช้าคุณก็จะประสบความสำเร็จในอาชีพที่คุณทำแน่
ขอบคุณภาพจาก : shorturl.asia/PxWf6
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ http://www.archeep108.com