เริ่มต้น กับอาชีพ ขายขนม กุยช่าย

 

เริ่มต้น กับอาชีพ ขายขนม กุยช่าย  ขนมกุยช่าย เป็นขนมประเภทก้วยของชาวจีนแต๊จิ๋วชนิดหนึ่ง ตัวแป้งทำจากแป้งข้าวเจ้าผสมแป้งมัน ไส้ทำจากกุยช่ายเชียว กุยไช่ก๊วยของชาวจีนแต๊จิ๋วจะหมายถึงชนิดที่ไส้ทำจากกุยช่ายเท่านั้น ส่วนในไทยทำจากแป้งอย่างที่ทำจากแป้งอย่างเดียวกันแต่เปลี่ยนไส้เป็นแบบอื่น ๆ เช่น ไส้เผือก ไส้หน่อไม้ ไส้มันแกว ปั้นแป้งเป็นชิ้นเล็ก มีทั้งแบบนึ่งและทอด

 

สูตรในการทำขนมออกขายแต่ละวัน

ส่วนใหญ่ต้องกำหนดจากความต้องการชของตลาดเป็นหลัก ซึ่งผู้บริโภคส่วนใหญ่ชอบทานไส้กุยช่ายมากที่สุด เวลาเตรียมขนมขาย ขนมไส้กุยช่ายต้องมีมากที่สุด หากคิดจาก 100 ลูก ไส้กุยช่ายต้องอยู่ที่ประมาณ 60-70 ลูก ส่วนไส้เผือก ไส้มันแกว ไส้หน่อไม้ จะอยู่ที่อย่างละ 10 ลูก

 

เหตุผลที่ต้องมีการเตรียมความพร้อม เพราะเราต้องมีสินค้าให้เพียงพอต่อความต้องการของตลาด หากเราเตรียมสินค้าไปน้อยกว่าผู้บริโภคจะเป็นการเสียโอกาสทางการค้า ส่งผลให้รายได้ที่เราคววรได้ลดลง

 

ต้นทุนของขนมกุยช่าย

รวมแป้งอยู่ประมาณ 1.60 บาท ไม่เกิน 1.80 บาท เวลาทำออกขายอยู่ที่ลูกละ 5 บาท แต่ถ้าขายส่งอยู่ที่ลูกละ 3 บาท กำไรไม่มาก ต่างจากขายปลีกแบบมีหน้าร้านที่ทำให้เรามีกำไรจากการขาย

 

ทำเลที่ดี

บอกเลยว่าการขายขนมกุยช่ายวันละ 500 ลูก ถือว่าเล็กน้อยมาก เพราะขั้นตอนการทำอาจจะมากแต่เวลาขายใช้เวลาไม่มาก ส่วนใหญ่ลูกค้าจะเริ่มต้นซื้อที่ประมาณ 4-5 ลูก เพียงเวลาไม่นานก็สามารถขายสินค้าได้หมด  หากเริ่มต้นใหม่ ๆ อาจจะยังไม่ชำนาญก้ให้ทำในปรมาณที่พอเหมาะ ใช้เวลาในการทำช่วงบ่ายจนถึงเย็น พอนึ่งสุกก็นำเก็บไว้ขายต่อตอนเช้าได้
หากสินค้าเราได้รับการตอบรับแล้ว เราอาจจะต้องทำเพิ่มมากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการ อาจจะมีพ่อค้าแม่ค้ามราริดต่อขอรับไปขายต่อได้ เนื่องจากผู้ที่มารับไปขายต่อจะมารับสินค้าไปแต่เช้า แต่สิ่งที่เราได้กลับมาก็คือ ค่าตอบแทนที่คุ้มค่ากับเวลาพักผ่อนเรา

 

บรรจุภัณฑ์ หรือกล่องที่ใช้บรรจุภัณฑ์ขนม

เวลาขายก็ควรต้องมีเบอร์โทรศัพท์ของเราติดไว้ด้วย เพื่อลูกค้าสนใจจะสั่งสินค้าได้ มีช่องทางในการติดต่อ เราต้องคว้าโอกาสเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นการรับทำขนมเวลาที่มีงานสำคัญ หรือการนำไปออกร้าน เพราะเวลามีการสั่งสินค้าหมายถึงรายได้เพิ่มเติมที่เราจะได้
ข้อควรระวังของการขายขนมคือ ต้องไม่เสียดายสินค้าในกรณีเราขายหมดในช่วงของวันที่ขาย แนะนำว่าไม่ควรนำไปเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อรักษาสภาพขนม แล้วนำกลับมานึ่งขายใหม่  เพราะขนมที่เราขายเราต้องเน้นที่ความสดใหม่ คุณภาพของความอร่อยเป็นสำคัญ เรื่องดังกล่าวมีผลต่อการขายมาก สิ่งสำคัญต้องนึกถึงหลักที่ว่า เอาใจเขามาใส่ใจเรา หากขนมเราผลิตออกมาไม่ดี ลูกค้าก็จะจดจำและไม่กลับมาซื้อเราอีก

 

มาดูวิธีการทำขนมกุยช่ายกัน

ตัวแป้ง

**แป้งมันสำปะหลัง 500 กรัม
**แป้งข้าวเจ้า 250 กรัม
**น้ำเดือดจัด 3+1/2 ถ้วย
**น้ำ 1 ถ้วย
**น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ

 

ไส้กุยช่าย

**กุยช่ายซอย 2 กก.
**เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
**เกลือสมุทร 2 ช้อนชา
**น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ
**น้ำมัน ¾ ถ้วย

 

น้ำจิ้ม

**น้ำ 4 ถ้วย
**เกลือสมุทร 1 ช้อนโต๊ะ
**น้ำส้มสายชู ¼ ถ้วย
**ซี่อิ้วดำหวาน ½ ถ้วย
**น้ำตาลทรายไม่ฟอก ½ ถ้วย
**พริกขี้หนูสวนบด ผสมน้ำส้มสายชู ¼ ถ้วย

ขั้นตอนการทำ

1.ทำน้ำจิ้ม โดยผสมเครื่องปรุงทั้งหมดใส่หม้อ เคี่ยวไฟกลางพอเดือด ปิดไฟ
2.ทำไส้โดยผสมกุยช่าย เบกกิ้งโซดา เกลือ น้ำตาล น้ำมัน เคล้าให้เข้ากัน พักไว้ 1 ชั่วโมง เพื่อให้ใบกุยช่ายนุ่ม  อยากให้นุ่มเร็วไม่ต้องรอถึง 1 ชม. ก็ขยำหน่อย จากนั้นเทใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำ
3.ทำแป้งโดยผสมแป้งมัน และแป้งข้าวเจ้ารวมกันในอ่างผสม ค่อย ๆ ใส่น้ำเดือดจัด ใช้พายไม้คนให้ทั่ว
4.พอแป้งอุ่นมือ ใช้มือนวดให้เข้ากัน ค่อย ๆ ใส่น้ำทีละน้อยสลับกับน้ำมัน ใส้ส้นมือนวดไปเรื่อย จนแป้งเหนียวรวมกันเป็นก้อน นวดจนน้ำและน้ำมันหมด แป้งจะเป็นก้อนเหนียวและนุ่มมือ
5.แบ่งแป้งเป็นก้อนกลมเล็ก ใช้แป้งมันแห้งเป็นแป้งนวล แล้วบีบใส่แป้งให้เป็นแผ่นบาง หรือจะใช้ไม้รีดแป้งให้บางก็ได้ ตักใส่ไส้ห่อจับจีบห่อ โดยรอบและไม่มีรอยรั่ว เรียงใส่ลังถึงที่รองด้วยใบตองฉีกเป็นริ้วทาน้ำมัน
6.นำไปนึ่งยนน้ำเดือด้วยไฟกลางนานประมาณ 10 นาที ทาด้วยน้ำมันเพื่อไม่ให้ติดกัน
7.ตักเสริฟใส่จาน พร้อมน้ำจิ้มได้เลย
ขนมกุยช่ายทำไม่ยาก ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก หากใครสนใจทำเป็นอาชีพเสริม อาชีพอิสระ ก็สามารถเริ่มต้นได้เลย ลงทุนไม่ถึงพันบาท ก็สามารถประกอบอาชีพได้แล้ว เพื่อหารายได้เสริมให้กับครอบครัว

อ่านบทความเพิ่มเติม http://www.archeep108.com