ขายสินค้า ตามกระแส ขายอย่างไร ให้รุ่ง   ขายสินค้า ตามกระแส ขายอย่างไร ให้รุ่ง   อีกอาชีพหนึ่งที่ต้องอาศัยความกระตือรือร้นความพร้อมของพ่อค้าแม่ค้าอยู่ตลอดเวลานั่นก็คือการขายสินค้าตามกระแส ไม่ว่าในขณะนั้นจะมีกระแสอะไรมาที่กำลังเป็นกระแสเราสามารถนำสินค้านั้นมาขายได้อย่างเช่นในช่วงยุคสินค้ากระแสดังๆก็ได้แก่หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ ผ้ากรองฝุ่น แอลกอฮอล์ทำความสะอาด วิตามินซี เป็นต้น ดังนั้นการขายสินค้ากระแสให้ประสบความสำเร็จจะต้องมีเทคนิคอะไรบ้างเรามาดูกัน 1.เป็นคนกล้าลงมือทำทันที เนื่องจากการขายสินค้ากระแสจะมีการเปลี่ยนแปลงกับความต้องการของผู้บริโภคเสมอหรือตามการออกข่าวของสื่อต่างๆพ่อค้าแม่ค้าที่คิดจะขายสินค้ากระแสต้องเป็นคนกล้าลงมือทำทันทีหรือเรียกได้ว่ากระแสน้ำกำลังมาเราต้องรีบเตรียมหาสินค้านั้นมารอไว้ขายได้เลย 2.มีเงินทุนในกระเป๋า แน่นอนการขายสินค้าตามกระแสจะต้องมีเงินทุนสำหรับไปหาซื้อของที่คนต้องการในเวลานั้นมาขายอย่างที่ทราบกันดีสินค้ากระแสมาเร็วและไปเร็วคนที่เป็นแม่ค้าพ่อค้าต้องรีบฉวยโอกาสนั้นในการหาสินค้ามาขายหาเงินไม่เพียงพอก็ไม่สามารถซื้อสินค้ามาขายได้ 3.ไม่จำเป็นต้องซื้อสินค้ามาสต๊อก หากไม่จำเป็นพ่อค้าแม่ค้าไม่ต้องสต๊อกของเพราะสินค้ากระแสไปเร็วและมาเร็วหากขายไม่ทันอาจจะต้องแบกภาระสินค้าสต๊อกนั้นไว้คุณก็ต้องขาดทุนเพราะสินค้ายังเหลืออยู่ใน Stock ขายยังไม่หมด อย่างไรแล้วควรสต๊อกสินค้าแต่ละชนิดอย่างพอดีไม่มากหรือน้อยเกินไป 4.ติดตามข่าวสารหรือเทรนสินค้ากระแส ก่อนที่จะนำสินค้ากระแสมาขายพ่อค้าแม่ค้าต้องติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจและสังคมอยู่ตลอดต้องรู้ว่าในขณะนั้นสินค้ากระแสชนิดใดมีความต้องการสูงเพื่อที่เราจะได้ศึกษาและหาสินค้านั้นมาขาย และควรสต๊อกสินค้าอย่างพอดี 5.ทำการตลาดผ่านสังคม media ช่องทางออนไลน์เป็นช่องทางหนึ่งที่เหมาะสำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ในการขายสินค้ากระแสเป็นอย่างมาก การเปิดแฟนเพจบน Facebook ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะทำให้สินค้ากระแสขายออกได้เร็วไม่ว่าจะเป็นการไรท์ขายของ หรือการทำโปรโมชั่นต่างๆ ลูกค้าให้เข้ามาที่แฟนเพจของเรา และที่สำคัญควรมีโปรโมชั่นพิเศษให้กับลูกค้าเสมอในช่วงที่มีเทศกาลต่างๆเช่นวันตรุษจีน วันวาเลนไทน์ วันขึ้นปีใหม่ ควรมีของกำนัลของขวัญเล็กๆน้อยๆให้กับลูกค้าด้วยเพื่อเป็นการเพิ่มยอดขายสินค้าให้กับเราได้อย่างดี ดังนั้นหากพ่อค้าแม่ค้าคนไหนที่สนใจสินค้ากระแส ก็สามารถทำตามเทคนิคต่าง ๆ เหล่านี้ได้ ที่สำคัญต้องมีความขยัน อดทน ซื่อสัตย์ต่อลูกค้า ไม่ขายราคาแพงจนเกินไป มีความรับผิดชอบต่อสินค้าที่นำมาขาย จะต้องเป็นสินค้าดีมีคุณภาพด้วย ไม่ใช่ว่าขายสินค้ากระแสคิดแต่จะเพิ่มยอดขายอย่างเดียวจนลืมคุณภาพของสินค้านั้น เพราะหากคุณทำเช่นนี้ คุณก็จะอยู่กับอาชีพนี้ได้ไม่นานเพราะคุณไม่ซื่อสัตย์ต่อลูกค้า  

ธุรกิจ สร้างตัวเล็ก ๆ กับ ร้านเพ้นท์เล็บ ที่สาว ๆ หลงรัก ธุรกิจ สร้างตัวเล็ก ๆ กับ ร้านเพ้นท์เล็บ ที่สาว ๆ หลงรัก   เอาใจสาว ๆ ที่ชอบการดูแลตัวเองให้สวยงาม ไม่ว่าจะรูปร่างหน้าตา ความสวยความงามบนใบหน้าหรือแม้กระทั่งเล็บ ที่สาว ๆ หลายคนหลงรักในการแต่งเล็บเป็นพิเศษ สิ่งนี้ทำให้เกิดร้านเพ้นท์เล็บบริการให้กับสาว ๆ ทั้งหลาย ร้านเพ้นท์เล็บ – ปัจจุบันเปิดให้บริการอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นตามตลาดนัด ย่านชุมชน ถนนคนเดิน รวมถึงร้านประจำตามห้างสรรพสินค้า  ซึ่งการเริ่มต้นทำธุรกิจร้านเพ้นท์เล็บนี้ต้องมีทักษะความรู้และเทคนิคในการตกแต่งเล็บให้ได้อย่างสวยงามและทันสมัย  และต้องบอกเลยว่าหากใครกำลังมองหาธุรกิจเล็ก ๆ หารายได้ให้กับตัวเอง ธุรกิจนี้สร้างรายได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว ธุรกิจร้านเพ้นท์เล็บต้องลงทุนอย่างไร ใช้งบประมาณเท่าไร สามารถเปิดร้านได้ตั้งแต่โต๊ะเล็ก ๆจนถึงร้านขนาดกลาง หรือขนาดใหญ่ ตกแต่งสวยงามหรูหราดูน่าเข้าได้เลย เงินลงทุนเริ่มที่ประมาณ 5,000 บาท – 100,000 บาทขึ้นไป  แต่ทางที่ดีการเริ่มต้นธุรกิจควรเริ่มจากสิ่งแรก ๆ ค่อยขยับขยายไปจนถึงร้านขนาดใหญ่ จะช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุนได้ดี

อาชีพเสริม ขายซูชิญี่ปุ่น ออนไลน์ ลุยดี ๆ ไปได้สวย อาชีพเสริม ขายซูชิญี่ปุ่น ออนไลน์ ลุยดี ๆ ไปได้สวย   เปิดร้านขายซูชิ ช่องทางใหม่ที่น่าสนใจ ทำเป็นอาชีพเสริมเล็ก ๆ ได้สบาย เราสามารถเปิดขายช่องทางออนไลน์ได้เพื่อประหยัดงบประมาณในการลงทุนค่าเช่าพื้นที่ได้อย่างดี หรือหากมีหน้าร้านหรือสามารถขายที่ตลาดนัดได้ ก็อาจเริ่มด้วยการหาซื้อแฟรนไชส์มาทดลองขายก่อนก็ทำได้ และหากสนใจที่จะเริ่มต้นทำเป็นอาชีพเสริมขายซูชิ ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนว่าต้องลงทุนเท่าไหร่ วัตถุดิบมีอะไรบ้าง แหล่งขายส่งวัตถุดิบชั้นดีที่ไหน เพื่อการบริหารงานขายซูชิให้มีกำไรมากที่สุด ไม่ต้องเหนื่อยกับการขายมากนัก เปิดร้านขายซูชิ ต้องมีเงินลงทุนเท่าไหร่ เปิดร้านขายซูชิเงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 4,000 บาท หรือหากจะซื้อแฟรนไชส์หรือรับมาขาย เงินลงทุนเริ่มต้น 2,900 บาท อุปกรณ์ขายซูชิ ต้องครบครันมีอะไรบ้าง **ถาดใส่ซูชิ ถาดอะครีลิคสีดำแดง 200-400 บาท **ถังไม้เก็บข้าวซูชิแบบญี่ปุ่น 1,500 บาทขึ้นไป **เสื่อม้วนญี่ปุ่นสำหรับทำซูชิ 30-70 บาท **เขียงไม้ขนาดเล็ก ราคา 100 บาท **ตะเกียบไม้ ราคา 100 บาท

อาชีพอิสระ ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ได้ประโยชน์ที่คุ้มค่ากว่า อาชีพอิสระ ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ได้ประโยชน์ที่คุ้มค่ากว่า  อีกอาชีพเสริมที่น่าสนใจ ลงทุนน้อย รายได้งาม ให้ประโยชน์ทางด้านร่างกายและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใช่แล้วเรากำลังพูดถึง อาชีพปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ เพราะอาชีพเกษตรกรรม ปลูกพืชผักสวนครัว หรือ ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ เป็นทางเลือกของคนที่ชอบปลูกผักปลูกต้นไม้ สามารถนำความชอบมาทำเป็นอาชีพเสริมได้อย่างน่าอัศจรรย์ การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ คือการปลูกพืชที่ไม่ใช้ดิน แต่ใช้น้ำที่มีแร่ธาตุที่มีความสำคัญต่อพืชผัก ที่คนสมัยก่อนเริ่มนำสารอาหารหรือแร่ธาตุใส่ลงในน้ำให้อาหารกับพืชผักแทนดิน จึงเป็นจุดเริ่มต้นของคำว่า ผักไฮโดรโปนิกส์ เพราะ ไฮโดร Hydro คือ น้ำ ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ต้องเริ่มจากอะไร 1.เลือกรูปแบบการปลูก ขั้นตอนการปลูกมี 5 แบบด้วยกันคือ การปลูกแบบลอยน้ำ, การปลูกแบบรางน้ำ, การปลูกแบบน้ำลึก, การปลูกแบบอากาศไหลเวียนต่อเนื่อง และ การปลูกแบบผสมผสาน 2.เลือกสถานที่ใช้การปลูก ควรปลูกในโรงเรือนการเกษตรมากที่สุด เพราะผักไฮโดรโปรนิกส์มีความอ่อนไหวต่อริมาณน้ำและความเข้มข้นของแสงแดด จึงไม่ควรปลูกที่โดนฝนโดยตรง หรือถูกแสงแดดมากไป 3.คัดสรรชนิดของผักที่อยากจะปลูก การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ขาย ควรเลือกพืชที่มีระยะการดูแลจนถึงเก็บเกี่ยวในเวลาอันสั้น เช่นผักกาดหอม กะหล่ำปลี ผักชี หน่อไม้ฝรั่ง พืชเหล่านี้ใช้เวลาในการปลูกจนเก็บเกี่ยวเพียง 1-2 เดือน ข้อดีของการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ขายเป็นอาชีพเสริม 1.ประหยัดต้นทุนในการลงทุนแรงงาน

เปิดร้าน ขายอาหาร ใน หมู่บ้าน เปิดร้าน ขายอาหาร ใน หมู่บ้าน  อาชีพเสริมอีกช่องทางหนึ่ง เป็นอาชีพอิสระเล็ก ๆ สำหรับคนที่ไม่สามารถออกไปทำงานนอกบ้านได้ หรือ คนที่อายุมากสักหน่อยแล้ว อยากหาอาชีพอิสระทำเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว ใช่แล้วเรากำลังพูดถึง อาชีพขายอาหารตามสั่งในหมู่บ้าน   คือถ้าหากพอฝีมือในการทำอาหารและมีพื้นที่หน้าบ้านสักหน่อย สามารถตั้งร้านขายอาหารเล็ก ๆ ได้สบายเปิดร้านขายอาหารตามสั่งคือคำตอบที่ดี เพราะลูกค้าสามารถเลือกสั่งอาหารได้หลากหลาย อาหารตามสั่งมีด้วยกันหลายเมนู อาทิ ข้าวกระเพาะไก่ไข่ดาว ข้าวหมูทอดกระเทียมพริกไทย ข้าวผัดหมู ข้างผัดไก่  ข้าวคะน้าหมูกรอบ ข้าวผัดพริกแกงไก่  ข้าวไข่เจียวหมูสับ ต้มยำกุ้ง แกงจืดสาหร่ายหมูสับ ยำวุ้นเส้น ยำหมูยอ เป็นต้น แล้วจะทำอย่างไรให้เปิดร้านขายอาหารตามสั่งในหมู่บ้านประสบความสำเร็จ เรามี 4 กลเม็ดสำคัญมาฝาก 1.ฝีมือ บวกกับวัตถุดิบที่ใช้เกรดคุณภาพ จะสังเกตุเห็นว่าแทบจะทุกหมู่บ้านจะมีร้านอาหารตามสั่งอยู่ แต่หากเราคิดจะเปิดร้านกับเค้าบางก็คงไม่เป็นไร เพราะฝีมือการทำอาหารแต่ละคนก็แตกต่างกันไป สูตรการหมักหมู การผัด การใช้วัตถุดิบประเภทข้าวสาร บางร้านใช้เพียงข้าวเสาไห้ ซึ่งจะทำให้ข้าวแข็งสักหน่อย แต่หากร้านเรายอมลงทุนสักหน่อยใช้เป็นข้าวหอมมะลิแท้ บวกกับฝึมือการผัดข้าว ส่วนผสมที่เราใช้ก็มีเกรดคุณภาพสูง ผัดรวมกันก็ทำให้เมนูอาหารตามสั่งของเราไม่เหมือนใครได้ 2.ตกแต่งหน้าร้านให้สะดุดตา

          สำหรับไก่ย่าง  ผมเห็นไก่ย่างในบ้านเรา  เอาเป็นท้องถิ่นหรืออำเภอที่ผมอยู่ดีกว่า  ถ้าจะกินไก่ย่างสัก 1 ตัวต้องหากินที่ร้านส้มตำจริงไหมครับ  กินไก่ย่างกับน้ำจิ้มแจ่ว หรือน้ำจิ้มหวาน ๆ แบบสมัยก่อน  สำหรับแถวบ้านผม         เมื่อก่อนไม่มีไก่ย่างวิเชียร ไก่ย่างบางตาล มาขายนะ  สำหรับไก่ย่างดั้งเดิม  คือ ไก่ย่างจิระพันธ์  ไก่ย่างห้าดาวเพิ่งจะมีขาย หรือทำตลาดก็ตอนผมเริ่มโตเป็นวัยรุ่นหล่ะ  แล้วค่อยมี ไก่ย่างจิระพันธ์  ไก่ย่างจีระภา ไปจนถึง ไก่ย่างวิเชียร ไก่ย่างบางตาล จนตอนนี้มีไก่อบฟาง เป็ดอบฟาง หรือไก่อบโอ่ง เป็นต้น  และไก่ย่าง 1 ตัวราคาแพงสุดตัวหนึ่งก็ 160 ถาตัวเล็กหน่อยก็ 140 บาท ครึ่งตัวก็ 70-80 บาทนะครับ  เป็นอาหารที่ไม่ต้องลงทุนมากอะไร  กินได้มื้อสองมื้อเลยทีเดียว           อาชีพขายไก่ย่างห้าดาว ถือกำเนิดเมื่อปี 2528  โดยตู้ย่างทรงสี่เหลี่ยมสูง