9 ร้าน ขนมไทย ในกรุงเทพที่ ต้องแวะไปชิม 9 ร้าน ขนมไทย ในกรุงเทพที่ ต้องแวะไปชิม  กลับบ้านต่างจังหวัดทีไร ต้องมีขนมติดไม้ติดมือกลับไปฝากคนที่บ้านทุกครั้ง อย่างน้อยก็ต้องมีขนมหวาน ขนมไทย หละที่ติดมือ ครั้งเราเราจะพาไปช็อปปิ้ง 9 ร้านขนมหวาน ขนมไทย ชื่อดัง ในจังหวัดกรุงเทพกัน ว่าจะมีร้านไหนบ้างที่ขายขนมหวาน ขนมไทย ที่มีรสชาติอร่อย หวานถึงใจจริง ๆ ที่ต้องแวะไปซื้อฝากคนที่บ้านให้ได้   1.ขนมไทยเก้าพี่น้อง เริ่มต้นด้วยร้านขนมไทยชื่อดังอย่าง ขนมไทยเก้าพี่น้อง ย่านจตุจักร เพราะหากนึกถึงร้านขนมหวานของไทย ขนมไทยเก้าพี่น้องเป็นร้านอันดับต้น ๆ กันเลยที่ต้องนึกถึง เพราะด้วยความหลากหลายของขนมไทยที่มีหลายชนิดให้เราได้เลือก เช่น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ข้าวเหนียวสังขยา ขนมทองเอก ขนมปั้นสิบ ขนมชั้น และอีกมากมายที่ได้รสชาติหอมอร่อยถึงใจจริง ๆ พิกัด – ตลาด อ.ต.ก. จตุจักร กรุงเทพฯ โทรศัพท์ – 02

รวม 10 ขายขนมหวาน ที่น่าขาย ในตลาดนัด รวม 10 ขายขนมหวาน ที่น่าขาย ในตลาดนัด  มีอาหารคาวขายกันแล้ว ก็ต้องมีอาหารหวาน อย่าง ขนมหวาน ขายกันบ้าง ถึงจะเรียกว่าครบรสชาติ กินอิ่มท้องตามธรรมเนียมอาหารของคนไทย ที่ทานข้าวเสร็จแล้วต้องตามด้วยของหวาน แต่ในยุคนี้ที่หลายคนรักสุขภาพมากขึ้น ของหวานก็เป็นสิ่งที่บางคนอาจจะหลีกเลี่ยง   แต่ถือว่า เป็นสินค้าขายดีที่มีให้เห็นในทุกตลาดนัด จุดเด่นของขนมหวานคือ มีสีสันที่ดึงดูดใจ และด้วยรสชาติที่อร่อยโดนใจ ราคาไม่แพง หลายเมนูเป็นขนมที่ทำไม่ยากแต่ขายดิบขายดี และมีลูกค้าแน่นร้านตลอด วันนี้ อาชีพ108.คอม ได้รวบรวม 10 ขายขนมหวานที่น่าขายในตลาดนัดมาฝากกัน บางเมนูทำง่าย เริ่มต้นอาชีพได้เลย บางเมนูอาจต้องฝึกฝีมือกันบ้าง แต่ก็ไม่ยากจนเกินความสามารถ ลองดูหากใครสนใจอยากเปิดร้านขนมหวาน เผื่อเป็นอาชีพเสริม อาชีพอิสระได้อีกทาง   1.ขนมเบื้อง ขนมเบื้องมีมาแต่โบราณกาล แต่ทุกวันนี้ก็ยังขายดีอยู่ ไม่ใช่แค่ในตลาดนัด แต่ตามงานรื่นเริง งานวัด งานอีเว้นท์ต่าง ๆ ก็มีขนมเบื้องขาย โดยตำรับโบราณมีอยู่มากมายหลายแบบ ที่มีส่วนผสมหลัก ๆ คือ แป้งข้าวเจ้า

ขาย ขนมครก ไส้ทะลัก อาชีพ ที่มั่นคง   ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่เล่นเอาบรรดาธุรกิจต่าง ๆ ทุนหายกำไรหด ปิดหน้าร้านกันไปเกือบหมดกันแล้ว หลายคนมองไปทางไหนก็เจอแต่ทางตัน คิดไม่ออกว่าตอนนี้ควรทำอะไรดี  ในคำแนะนำที่เป็นไปได้คือเราต้องรู้จักปรับกลยุทธ์ ปรับเปลี่ยนวิธีการขาย เพื่อรักษาตัวรอดและสร้างยอดขายให้พอประทังตัวไปได้ก่อนในเวลานี้   ซึ่งเวลานี้อะไรที่พอยืนหยัดได้และสามารถขายได้ตลอดเวลาคือ ธุรกิจหรืออาชีพเกี่ยวกับอาหาร ไม่ว่าจะอาหารหลัก ของทานเล่น อาหารคาว อาหารหวาน ก็มีความเป็นไปได้ที่จะดำรงชีพได้ แล้วว่าไปขนมหวานที่ใคร ๆ ก็ชอบทานอย่าง ขนมครก เมนูบ้าน ๆ ที่ใคร ๆ ก็รู้จักกันดี ไม่ว่าใครก็ต้องเคยได้ทาน สามารถทำเป็นอาชีพเสริม อาชีพอิสระ หรือบางคนทำดี ๆ ก็กลายเป็นอาชีพหลักได้เลย อย่าง อาชีพขายขนมครกของร้านเจ้แขก ที่เป็นตัวพ่อด้านขายขนมครกกันเลย ด้วยความมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองอย่าง ขนมครกที่มีไส้ทะลัก การเอนเตอร์เทนเนอร์ตัวพ่อ สร้างเสียงหัวเราะและความแปลกใหม่ให้กับวงการขนมครกได้อย่างดี   ขนมครกเจ้แขกแหกปาก นักขายสายเอนเตอร์เทนเนอร์ ที่เรารู้จักกันในนาม เจ้แขก ชื่อจริงคุณไพทูรย์ ขำขัน เจ้าของร้าน ขนมครกเจ้แขกแหกปาก ตั้งอยู่บริเวณองค์พระปฐมเจดีย์

อาชีพ ขายขนมหวาน รายได้ เสริม ที่มั่งคง   อาชีพ ขายขนมหวาน รายได้ เสริม ที่มั่งคง  ในการเปิดร้านขายขนมหวาน สามารถทำเป็นอาชีพเสริม อาชีพอิสระไดด้ เพราะอาชีพขายขนมหวานถือว่าเป็นอาชีพเสริมที่ลงทุนน้อย แต่รายได้ดี   เนื่องจากเรื่องอาหารการกินถือว่าเป็นปัจจัยสี่ที่คนเราต้องบริโภคกันทุกวัน แม้กระทั่งอาหารหวาน คาวต่าง ๆ ก็ยังคงทานกันไม่น้อย การขายขนมหวาน เป็นอีกหนึ่งไอเดียอาชีพที่น่าสนใจ เราลองมาชมกันดีกว่าว่า การจะเปิดร้านขายขนมหวานนั้นต้องใช้ทุนเท่าไหร่ มีปัจจัยอะไรบ้างในการเปิดร้านขายขนมหวาน ที่สามารถทำรายได้หลักหมื่นกันเลย ขนมไทย คือ อาหารหวานของอาหารไทย ลักษณะขนมไทยจะมีความหวานจากน้ำตาล ความมันจากกะทิ โดยมีส่วนผสมของวัตถุดิบจากธรรมชาติ เช่น แป้ง ไข่ไก่ ไข่เป็ด เนื้อผลไม้ต่าง ๆ เช่น ลูกตาล ลูกชิด มะพร้าว กล้วย ซึ่งเทคนิคการทำขนมไทยส่วนมากจะเป็นการนึ่ง การต้ม เป็นหลัก ประเภทของขนมหวานไทย แบ่งได้ 7 ประเภท คือ ขนมกวน ขนมนึ่ง ขนมเชื่อม ขนมทอด

เปิดร้าน ขาย ขนมไทย อาชีพเสริม ที่น่าสนใจ   เปิดร้าน ขาย ขนมไทย อาชีพเสริม ที่น่าสนใจ    ขนมไทยเป็นขนมหวานมีมาตั้งแต่สมัยเวลา ซึ่งถือเป็น การประกอบพิธีการต่างๆ ถือเป็นเอกลักษณ์และวัฒนธรรมของชาติซึ่งอยู่คู่กับสังคมไทยมาช้านาน ในสมัยก่อน ขนมไทยจะทำเฉพาะเวลามีงานสำคัญเท่านั้นไม่ว่าจะเป็นงานเทศกาลงานประเพณีงานทางศาสนา หรือการประกอบพิธีการต่างๆ  ขนมไทย   ขนมไทยแท้ดั้งเดิมมีลักษณะ ที่แท้จริงเคยเป็นขนมไทยแท้ จะมีส่วนประกอบเพียงสามอย่าง คือแป้ง น้ำตาล  มะพร้าว โดยการทำขนมไทยเป็นการบ่งบอกถึงลักษณะนิสัยของคนไทย ในเรื่องความอดทน ใจเย็น ละเอียดละออ และชอบสังเกต ทั้งยังได้แสดงความหวังอันลึกซึ้งไว้ในชื่อของขนมไทยแต่ละชนิดด้วย ขนมชั้น หมายถึง ความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน การเลื่อนชั้น เลื่อนตำแหน่ง ขนมถ้วยฟู หมายถึง ความเจริญเฟื่องฟูรุ่งเรือง ขนมทองเอก หมายถึง ความเป็นหนึ่ง ขนมเสน่ห์จันทร์ หมายถึง ความมีเสน่ห์ดุจจันทร์วันเพ็ญ ขนมทองหยิบทองหยอด หมายถึง ความร่ำรวยทรัพย์สินเงินทอง และด้วยที่ว่าคนไทยชอบทานขนมไทย กันเป็นประจำอยู่แล้วทำให้พ่อค้าแม่ค้า สนใจที่อยากจะเปิด ร้านเล็ก ทำเกี่ยวกับขนมไทยขาย ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะขนมไทย

ขนมครกเป็นขนมไทยๆ ที่ทุกคนรู้จักและคุ้นเคยกันดี ขนมครกร้อนๆ หอมๆ จากเตาเป็นสิ่งที่หลายคนชื่นชอบ จะรับประทานเปล่าๆ เป็นของทานเล่น หรือทานเป็นของว่างแก้หิวก็ได้ วิธีการทำก็ไม่ยาก สามารถประยุกต์ส่วนผสมและรสชาติให้เป็นรูปแบบต่างๆ ได้มากมาย ดังนั้นมาทำขนมครกขายเป็นอาชีพเสริมกันดีกว่า ส่วนผสมในการทำขนมครก แป้งข้าวเจ้า 1 กิโลกรัม แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วยตวง แป้งสาลีเอนกประสงค์ 3 ถ้วยตวง ไข่ไก่ 1 ฟอง หางกะทิ 1 ลิตร เกลือ 2 ช้อนชา น้ำอุ่น 1 ลิตร ส่วนผสมหน้าขนมครก หัวกะทิ ครึ่งถ้วยตวง หางกะทิ ¼ ถ้วย แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนชา น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ เกลือป่นปลายช้อนชา เครื่องต่างๆ ตามต้องการ เช่น ข้าวโพด, ต้นหอมซอย, ฟักทองหั่นชิ้น, เผือกหั่นชิ้นและมะพร้าวอ่อน เป็นต้น