อาชีพขาย ข้าวสาร สร้างรายได้ ที่มั่นคง  สำหรับอาชีพขายข้าวสาร ก็เป็นอีกอาชีพที่น่าสนใจ ที่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าหันมาประกอบกิจการ ขายข้าวสารกัน เพราะเป็นธุรกิจที่ทำได้ง่าย กำไรงาม ข้าวเป็นอาหารที่เป็นปัจจัย 4 ของมนุษย์ที่ขาดไม่ได้เลย

 

โดยผลตอบแทนจากการขายข้าว ว่ากันว่า การขายปลีกโดยทั่วไปผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 10—15% แต่ต้องขึ้นกับกลยุทธ์ในการขาย การตั้งราคา คู่แข่ง จำนวนร้านค้าที่อยู่ในละแวกนั้นด้วย

 

แต่สิ่งสำคัญผู้ขายต้องมีต้นทุนที่ต่ำเสียก่อน การมีต้นทุนที่ต่ำหมายถึง ลูกค้าซื้อข้าวสารในคุณภาพที่ดี สมเหตุผล ซื้อครั้งแรกเป็นอย่างไร ต่อไปก็ได้ข้าวสารคุณภาพเดิม

 

สำหรับชนิดของข้าวสาร เราสามารถแยกขนิดของข้าวสารได้อ้างอิงจากมูลนิธิข้าวไทย แบ่งข้าวออกเป็น แบ่งตามประเภทของเนื้อแข็งในข้าว ข้าวเจ้า ข้าวเหนียว แบ่งตามสภาพพื้นที่เพาะปลูก แบ่งตามอายุการเก็บเกี่ยว แบ่งตามความไวต่อช่วงแสง แบ่งตามรูปร่างของเม็ดข้าว แบ่งตามฤดูเพาะปลูกข้าว  แต่ในที่นี้เราขอแบ่งของข้าวออกเป็น 4 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่ ข้าวหอมมะลิ ข้าวขาว ข้าวเหนียว ข้าวเพื่อสุขภาพ

 

การเริ่มต้นขายข้าวสาร ทำอย่างไร

ก่อนอื่นต้องทำคือ ถามตัวเองก่อนว่า ต้องการขายข้าวสารลักษณะไหน เช่นถ้าคุณมีเงิน 1 หมื่นบาท สามารถซื้อข้าวสารได้ประมาณ 10 ถุง สามารถเปิดร้านเล็ก ๆ ได้ หรือ แบบที่วิ่งหาลูกค้าเอง ข้อดีคือไม่ต้องลงทุนมากนัก รอมีออเดอร์แล้วค่อยเอาสินค้าไปส่ง แต่ลูกค้ามักขอเครดิต โดยเราต้องดูว่าสามารถเก็บเงินได้หรือเปล่า ต้องหาคนงานแบกข้าวส่งตามร้านลูกค้าไหม โดยแบบนี้ต้องไปคุยกับลูกค้า เช่น โรงแรม โรงเรียน โรงงาน ร้านอาหาร ว่าเค้าใช้ข้าวสารแบบไหน ข้าวหอม ข้าวขาว ข้าวเหนียว เกรดไหน ราคา ซึ่งจะทำให้เรารู้ว่าเราควรจะเสนอสินค้าแบบไหน

 

หาทำเลในการเปิดร้านขายข้าวสาร

การค้าขายที่ดีต้องมีหน้าร้าน หรือทำเลที่ดีเช่นกัน ทำเลที่ดีควรตั้งอยู่ในแหล่งชุมชน ตลาด หน้าหมู่บ้าน แต่ทั้งนี้ไม่ว่าจะมีทำเลที่ดีหรือไม่ ก็สามารถขายข้าวสารได้เช่นกัน ชนิดที่ไม่ต้องเสียค่าเช่าร้านเลย คือ การขายข้าวสารผ่านช่องทางออนไลน์ ที่คุณสามารถเปิดเฟสบุคขายข้าวสารผ่านเฟสบุคตัวคุณเองได้เลย หมั่นโพสภาพข้าวสารแต่ละชนิด คุณประโยชน์ของข้าวสารแต่ละชนิดว่าดียังไง แล้วที่ร้านคุณก็มีจำหน่ายเช่นกัน

 

งบการลงทุน

ในการเริ่มต้นขายข้าวสารนั้น สามารถขายได้หลายวิธี เริ่มแรกหากคุณยังไม่มั่นใจก็ยังไม่จำเป็นต้องเช่าร้าน คุณสามารถเดินสอบถามพ่อค้า แม่ค้า โรงแรม โรงอาหารที่ไหนก็ได้ที่มีคนทานข้าว ว่าเขาใช้ลักษณะไหน แล้วทำการเสนอราคาไป หากข้าวของคุณดีมีคุณภาพจริง ก็ต้องเปลี่ยนมาซื้อข้าวสารกับร้านคุณ

 

โดยคุณอาจซื้อข้าวสารไปอย่างละถุง ราคาก็ตามแต่ข้าวสารก็ลงทุนแค่หลักพันพอลองขายได้ก็ค่อยเพิ่มทุนแล้วค่อยซื้อข้าวสารเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ วันแรกอาจซื้อเพียง 2-3 ถุงก่อน แล้วค่อย ๆ เพิ่ม

 

กำไรจากการขายข้าวสาร

กำไรจะอยู่ที่ประมารกิโลละ 5-7บาท ขึ้นกับชนิดข้าวและคู่แข่งของท่าน หากคุณขายเป็นถุงโดยนำข้าวสารไปส่งให้ถึงร้านลูกค้า คุณก็อาจได้กำไรประมาณ 200-300 หรืออาจมากกว่านี้ขึ้นกับชนิดข้าว จำนวนลักษณะการชำระเงิน และคู่แข่ง

 

การลงทุนเปิดร้านขายข้าวสารไม่ยาก ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นประมาณหลัก 1000 บาทเพื่อซื้อข้าวสารกิโลชั่งถุงพลาสติกใส่ข้าว ก็เริ่มธุรกิจข้าวสารได้แล้ว

 

วิธีเปิดร้านขายข้าวสารให้อยู่รอด

1.มีข้าวสารให้เลือกหลายชนิด

ในร้านควรมีข้าวสารให้เลือกซื้อหลายชนิดหลายพันธุ์ ข้าวชนิดไหนขายดี ควรมีติดร้านไว้เสมอ เช่นข้าวหอมปทุม ข้าวหอมสุรินทร์ ลูกค้าแต่ละคนมีความนิยมในการเลือกซื้อข้างต่างกันบางคนชอบข้าวแข็ง ข้าวนิ่ม ข้าวแต่ละประเภทมีข้อดีข้อเสียต่างกัน ควรมีตัวเลือกให้ลูกค้าได้มากขึ้น

 

2.มีแหล่งข้าวสารคุณภาพดี

เรื่องแรกคือหาพาร์ทเนอร์ที่จะขายวัตถุดิบให้เรา ส่วนใหญ่เป็นข้าวสารจากโรงสี ที่เดี๋ยวนี้ดรงสีเองก็อยากให้มีตัวแทนจำหน่ายมารับข้าวสารไปขาย ดังนั้นโรงสีเองก็ค่อนข้างเอาใจพ่อค้าด้วยการให้ราคาที่สมเหตุผล แต่ในฐานะคนขายก็ต้องเลือกโรงสีที่มีคุณภาพไว้ก่อน

 

3.เลือกรูปแบบการขายให้เหมาะกับตัวเอง

การขายข้าวสารมีทั้งแบบเปิดร้านหรือวิ่งรถไปตามหมู่บ้าน แต่ละวิธีมีข้อดีในตัวเอง แต่ส่วนใหญ่เน้นการเปิดร้านขายเป็นหลัก บางร้านขายประจำที่ร้านจะมีลูกค้าประจำก็จะกำหนดต้นทุนได้ดี

 

4.แหล่งกระจายสินค้านอกจากลูกค้าหน้าร้าน

หากมีร้านข้าวสารของตัวเอง จะรอแต่ลูกค้าเดินมาซื้อก็คงไม่พอ ทางที่ดีต้องหาแหล่งขายข้าวสารเพิ่มเติม เช่น ติดต่อร้านอาหาร โรงแรม โรงอาหาร แล้วขอให้เราเป็นคนส่งข้าวสารให้ราคาไม่แพง ทำเป็นประจำ สัญญาต่อเดือนต่อปีก็ว่าไป

 

5.มีการบริการที่น่าประทับใจ

มีบริการจัดส่งถึงที่เพราะข้าวสารน้ำหนักมาก ลูกค้าสาว ๆ คงหิ้วไม่ไหว ร้านค้าต้องมีบริการจัดส่งให้ถึงรถหรือบางทีลูกค้าไม่ได้มาซื้อเองที่ร้านแต่โทรมาสั่งให้เอาไปส่งเราก็ต้องมีบริการในส่วนนี้

 

6.ต้องมีความรู้เรื่องข้าว

พ่อค้าที่จะขายข้าวสาร ต้องมีความรู้เรื่องข้าวสารด้วย เวลาลูกค้ามาสอบถามว่าข้าวแบบไหนดี อร่อย พ่อค้าจะต้องตอบคำถามได้ดีกว่า วิธีการหุงให้ขึ้นหม้อสำหรับข้าวสารชนิดนี้ต้องเติมน้ำมากน้ำน้อย พ่อค้าต้องตอบให้ได้

 

7.ราคาข้าวสารต้องกำลังดี

ต้องมีราคาข้าวสารที่เหมาะสมกับตลาดทั่วไป เช่นข้าวหอมมะลิบางที่ถังละ 450 บาท บางที่ถังละ 500 บสมทั้งนี้การตั้งราคาพ่อค้าแม่ค้าต้องการกำไรจากการขาย แต่ก็ควรให้สมเหตุสมผลกับความเป็นจริง  หากคุณตั้งราคาขายไม่เหมาะสม คุณก็อาจจะขายไม่ได้เลย ไม่ควรเอากำไรมาก

 

ขอบคุณเครดิตภาพ shorturl.asia/20RWY
อ่านบทความเพิ่มเติม www.archeep108.com