น้ำเต้าหู้-ปาท่องโก๋ อาหารเช้า ที่ได้คุณค่า

 

น้ำเต้าหู้-ปาท่องโก๋ อาหารเช้า ที่ได้คุณค่า  เครื่องดื่มสุขภาพที่หาทานได้ง่ายในยามเช้า น้ำเต้าหู้ ที่เราได้เห็นกันอย่างคุ้นตาตั้งแต่เด็ก ๆ ตามหน้าหมู่บ้าน ตลาดสด ริมถนนหน้าออฟฟิค ที่ยังคงเป็นอาหารที่ทานได้ในทุกเช้า  และต้องไม่ลืมคู่จิ้นของเค้าคือ ปาท่องโก๋ ที่ทานคู่กันแล้วอร่อยฟินสุด ๆ เพิ่มทั้งพลังงานกายและใจก่อนไปทำภารกิจต่าง ๆ ตลอดทั้งวันได้สบาย
นอกจากนี้หากใครอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง การขายน้ำเต้าหู้-ปาท่องโก๋ เป็นอีกธุรกิจที่น่าสนใจไม่น้อย ยิ่งเป็นคนตื่นเช้าอยู่แล้ว ก็สามารถทำเป็นธุรกิจได้เลย เพราะทราบกันดีว่าขายน้ำเต้าหู้-ปาท่องโก๋ การขายเวลาเช้าจะขายได้ดีกว่าเวลาอื่น ยิ่งต้นทุนในการเริ่มต้นค่อนข้างต่ำ แต่กำไรจากกิจการนี้ คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม ถ้าเช่นนั้นเรามาเริ่มต้นขายน้ำเต้าหู้-ปาท่องโก๋ กันดีกว่าว่าจะต้องเริ่มต้นอย่างไร

1.มีเงินทุน พร้อมที่จะลงทุน บริหารจัดการเงินให้ได้แบบไม่ต้องขาดทุน

การมีเงินทุนพร้อมเป็นการเริ่มต้นได้อย่างดี เพราะไม่ว่าจะทำธุรกิจใด ๆ เงินทุนมีความสำคัญเสมอ โดยเราต้องพิจารณาในส่วนของเงินทุนของตัวเองก่อนว่ามีพร้อมลงทุนไหม สามารถหาได้จากไหนโดยไม่ต้องไปกูยืน ต้องศึกษางบประมาณในการลงทุนให้ครอบคลุมทั้ง ค่าอุปกรณ์ร้านค้า ค่าวงัตถุดิบ ค่าเช่า ค่าที่ รวมถึงค่าใช้จ่าย ต่าง ๆ อื่น ๆ และที่สำคัญต้องมีเงินทุนสำรองกรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน

2.คัดสรรแต่วัตถุดิบที่มีคุณภาพสูง

ต้องคัดสรรแต่วัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพสูงให้กับลูกค้า มาปรุงแต่งในน้ำเต้าหู้ ให้ได้คุณภาพ และอร่อยได้อย่างมีคุณค่าด้วย อาจจะเป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติ เช่น ถั่วเหลืองที่คัดสรรมาจากธรรมชาติแท้ ใช้น้ำตาลทรายแดงอย่างดี ขบวนการผลิตต้องสดใหม่ สะอาด ได้คุณภาพอยู่เสมอ

3.วิธีการผลิตน้ำเต้าหู้ สูตรที่คิดค้นเอง

ในการผลิตน้ำเต้าหู้ หากมีสูตรเป็นของตัวเองได้ยิ่งดี อาจจะคิดค้นขึ้นเอง พัฒนาสูตรที่มีอยู่ให้แตกต่างจากคนอื่น แต่ต้องมีความอร่อยด้วยนะ อร่อยได้คุณค่า มีเครื่องปรุงอย่างธัญพืช เมล็ดบัว ข้าวโพด  ใส่แต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เป็นต้น

4.สร้างความแตกต่างด้วยการเพิ่มเมนูใหม่ ๆ บ้าง

เพราะกระแสคนรักสุขภาพมาแรงอันดับต้น ๆ การขายเพียงน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋คงอาจไม่เพียงพอ การหาเมนูใหม่ ๆ มาเสริมบ้าง เช่น น้ำบัวลอยน้ำขิง น้ำขิง นมสด และเสริมด้วยธัญพืชต่าง ๆ ใส่ลงไปเช่น ข้างบารเลย์ แปะก๊วย ถั่วแดง ลูกเดือย นอกจากจะเพิ่มคุณค่าทางอาหารแล้วยังช่วยส่งเสริมให้คนรักสุขภาพหันมาทานน้ำเต้าหู้เพิ่มมากขึ้นได้อีกด้วย

5.ทำการขาย และหาช่องทางจำหน่ายเพิ่ม

กลุ่มเป้าหมายของธุรกิจน้ำเต้าหู้-ปาท่องโก๋ส่วนใหญ่เป็นคนในชุมชน คนที่ตื่นเช้าไปทำงาน ไปโรงเรียน ที่จะแวะซื้อน้ำเต้าหู้-ปาท่องโก๋ ก่อนไปทำงาน ไปโรงเรียน ซึ่งเราควรหาทำเลที่มีคนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก นั่นหมายถึงบริเวณหน้าหมู่บ้าน หน้าตลาดสด หน้าแหล่งที่ทำงาน เป็นต้น โดยตั้งหน้าร้านให้ดูขาวสะอาดตา ป้ายสีสันสดใสสวยงาม พร้อมตั้งป้ายราคาขายที่ไม่แพง เช่นน้ำเต้าหู้อย่างเดียวราคา 6 บาท ใส่เครื่อง 2 อย่าง 10 บาท ใส่เครื่อง 5 อย่าง 15 บาท และ  ปาท่องโก๋ตัวเล็ก 2 บาท ตัวใหญ่ 5 บาท  โดยร้านของเราจะเน้นคุณภาพและวัตถุดิบที่สดใหม่อยู่ทุกวัน ไม่มีค้างคืนแต่อย่างใด  ทั้งนี้รวมถึงเพิ่มช่องทางการจำหน่ายด้วยเช่น ถ่ายรูปร้านเรา น้ำเต้าหู้ลงสื่อออนไลน์ เพื่อจะได้มีคนได้เห็นทางสื่อออนไลน์แล้วแวะมาซื้อทานได้หากอยู่ใกล้บริเวณแถวนั้น

6.เพิ่มการบริการจัดส่งถึงที่ Delivery

อาจเพิ่มช่องทางการจัดส่ง Delivery ขึ้นมาสำหรับลูกค้าที่ไม่สะดวกมาซื้อด้วยตนเอง หรือลูกค้าท่ำกลังจัดงานสัมมนาตอนเช้า อยากจะได้น้ำเต้าหู้มาเสริม ที่ต้องการซื้อจำนวนหลายถุง ร้านของคุณก็มีบริการจัดส่งถึงที่ให้ลูกค้าได้ทานได้ทันใจ

7.ตัวเองต้องมีความขยันอดทน

การทำธุรกิจใดให้ประสบความสำเร็จควรเริ่มต้นจากใจรักในอาชีพ ความชอบความถนัดส่วนตัวที่ชอบทำอาหารหรือเครื่องดื่ม รวมถึงต้องมีความขยันอดทนเป็นทุนเดิม จะส่งผลให้สิ่งที่ทำออกมาประสบผลสำเร็จได้ดี เพราะธุรกิจขายน้ำเต้าหู้-ปาท่องโก๋ คุณจะต้องตื่นแต่เช้ามืดตี3-ตี4 เป็นอย่างต่ำ เพื่อที่จะได้เริ่มขายตั้งแต่ตี 5 จนถึง 8 โมงเช้า ก็ต้องเก็บร้านแล้วเท่ากับคุณมีเวลาขายเพียง 3 ชั่วโมงเอง เป็นเวลาทองที่คุณต้องรีบขชายให้หมดให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อจะได้ไม่เหลือของทิ้ง
สำหรับใครที่อยากเป็นเจ้าของธุรกิจตัวเองแบบเล็ก ๆ ไปก่อน การเริ่มต้นขายน้ำเต้าหู้-ปาท่องโก๋ก็สามารถเริ่มต้นได้ไม่ยาก ขายคล่องกำไรงดงาม เพราะเป็นอาหารเช้าที่ทานง่ายได้คุณค่าทางร่างกาย ในราคาไม่แพง ตอบโจทย์คนรักสุขภาพได้ดี เหมาะกับสังคมเร่งรีบในปัจจุบัน ที่ทานแล้วอิ่มท้องได้คุณประโยชน์ทางร่างกาย
ขอขอบคุณเครดิตภาพ https://shorturl.asia/kdOCY

อ่านบทความคุณภาพไ้ดที่ http://www.archeep108.com